ไพ่เสือมังกร

เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการคาสิโนออนไลน์ เนื่องจากในแต่ละรอบการออกรางวัลใช้เวลาไวมาก เพียงไม่ถึง 25 วินาทีต่อรอบ เราสมารถรู้ผลการลงเดิมพันได้ทันที

และสามารถทำกำไรได้เพียง 25 วินาที ยังมาพร้อมกับโต๊ะวางเดิมพันที่ดูเข้าใจวิธีเล่นได้ง่ายคล้ายกับไพ่บาคาร่า เป็นการถ่ายทอดสดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งเล่นอยู่ที่คาสิโนจริงในบทความนี้มาทำความรู้จักกับไพ่เสือมังกร

ที่ยอดนิยม ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีวิธีเล่นอย่างไร รวมถึงกติกาการเล่นที่จะช่วยให้คุณรู้จัก ไพ่เสือมังกรเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการคาสิโนออนไลน์ เนื่องจากในแต่ละรอบการออกรางวัลใช้เวลาไวมาก เพียงไม่ถึง 25 วินาทีต่อรอบเท่านั้น คุณก็รู้ผลการลงเดิมพันและกวาดรางวัลกลับเข้ากระเป๋าได้แล้ว

เกมไพ่เสือมังกรยังมาพร้อมกับโต๊ะวางเดิมพันที่ดูเข้าใจวิธีเล่นได้ง่ายคล้ายกับบาคาร่า แถมเล่นผ่านระบบถ่ายทอดสดที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนนั่งเล่นอยู่ที่คาสิโนจริงอีกด้วย

ลงทุนง่าย แค่ใช้ไพ่ใบเดียว

ไพ่เสือมังกร เป็นที่ได้รับการดัดแปลงจากการเล่นบาคาร่า โดยบาคาร่ามีวิธีการเล่นที่ลุ้นสนุก และให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็ต้องใช้เวลาในแต่ละไม้ที่ค่อนข้างนาน 59 วินาที ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดระยะเวลาในการลงเดิมพัน

ใช้ไพ่ในการลุ้นเพียงฝ่ายละ 1 ใบเท่านั้น ในแต่ละโต๊ะ จะใช้ไพ่ทั้งหมด 6-8 สำรับในการเล่น

การแจกไพ่จะทำการแจกฝ่ายเสือ (Tiger) และ มังกร (Dragon) เพียงฝ่ายละ 1 ใบเท่านั้น แล้วรอเวลานับถอยหลัง 25 วินาที ก่อนที่จะเปิดไพ่ขึ้นมา เพื่อดูว่าฝ่ายไหนจะมีแต้มหน้าไพ่มากกว่ากัน โดยคุณที่เป็นผู้ลงเดิมพันจะเลือกได้ว่าจะลงเดิมพันที่ฝ่าย เสือ (Tiger) หรือมังกร (Dragon) หรือ เสมอกัน (Tie) ลงบนโต๊ะที่ช่องเอาไว้ ซึ่งไพ่ A จะมีค่าน้อยที่สุด และไพ่ 10, J, Q, K จะมีค่าสูงที่สุดในเกม

กติกาการเล่น

เป็นเกมคาสิโนที่จะใช้ไพ่ทั้งหมดจำนวน 52 ใบ แต่จะเอาไพ่ Joker ในการเล่นนั้นจะมีฝั่งให้คุณเลือกอยู่ 2 ฝั่งนั้นคือ ฝั่งเสือ และ ฝั่งมังกร

โดยจะทำการแจกไพ่ฝั่งละหนึ่งใบ ถ้าฝั่งไหนแต้มสูงกว่าถือว่าชนะ โดยก่อนเริ่มเกมทุกครั้งคาสิโนจะมีเวลาให้เลือกวางเดิมพันประมาณ 25 วินาที การวางเดิมพันส่วนหลักๆ จะมีอยู่ 3 รูปแบบ นั้นคือ เสือ , เสมอ , มังกร ซึ่งบางคาสิโนออนไลน์ก็จะสามารถเลือกวางเดิมพัน คี่-คู่ , สีแดง-ดำ ได้ด้วยนั้นก็ขึ้นอยู่แต่ละคาสิโนว่าจะเปิดให้เดิมพันหรือไม่

จุดเด่นคือสามารถวางเดิมพันได้มากกว่า 1 จุด มาพร้อมกับอัตราการจ่ายก็สูงใช้ได้เลยทำให้ผู้ที่กำลังมองหาช่องทางทำเงินที่ได้แบบรวดเร็วต้องห้ามพลาดเด็ดขาด

วิธีการนับแต้มไพ่

วิธีการนับเลขคล้ายกับกาารเล่นบาคาร่า โดยจะมีแต้มหน้าไพ่ตั้งแต่ 1-13การนับแต้มนั้นก็จะคล้ายๆ กับไพ่บาคาร่านั้นเองจึงทำให้เล่นง่ายไม่ยุ่งยากเหมาะสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ มาเริ่มดูกันดีกว่าการนับแต้มของบาคาร่าเสือมังกรเป้ยแบบไหน

ไพ่เอส ( A ) จะมีแต้มเท่ากับ 1 แต้ม

ไพ่ตัวเลขคือ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10 จะนับแต้มตามจำนวนเลขที่อยู่บนไพ่

ไพ่เจ ( J ) จะมีแต้มเท่ากับ 11 แต้ม

ไพ่คิว ( Q ) จะมีแต้มเท่ากับ 12 แต้ม

ไพ่เค ( K ) จะมีแต้มเท่ากับ 13 แต้ม ถือเป็นไพ่ที่มีแต้มสูงสุด

อัตราการจ่าย

• ฝั่งเสือมีอัตราการจ่ายอยู่ที่   1 : 1

• ฝั่งมังกรมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 1

• ฝั่งเสมอมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 8

• ฝั่งคี่มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1  :75

• ฝั่งคู่มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 05

• ฝั่งแดงมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 9

• ฝั่งดำมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 9

มีวิธีเล่นยังไง ?

วิธีการเล่นสามารถเลือกเล่นได้ผ่านเว็บ  Ufazeed สมัครใช้งาน เข้าไปสู่ห้องเดิมพันพบกับโต๊ะที่มีการถ่ายทอดสดออนไลน์อยู่ตรงกลาง (ผู้แจกไพ่และดำเนินเกม) พร้อมกับช่องสำหรับลงชิปเดิมพันและตารางสถิติไพ่ที่ผ่านมา

วิธีการเล่นไพ่เสือมังกร มีความคล้ายคลึงกับวิธีเล่นบาคาร่า มากๆ เพียงแต่ว่าวิธีเล่นไพ่เสือมังกร จะตัดสินผลแพ้ชนะด้วยไพ่ 1 ใบ ไม่มีการเปิดไพ่ใบที่ 2 หรือ 3 เหมือนบาคาร่า

โดย ผู้เล่น ต้องเลือก แทงว่า ไพ่ฝั่ง เสือ หรือมังกร จะมีแต้มสูงกว่ากัน และรูปแบบ การแทง จะมีให้เลือกแค่ 3 รูปแบบ เท่านั้น

หลังจากที่เลือก ห้อง คาสิโนสด ดูไพ่ที่มาตามเค้า ขั้นตอนการเดิมพันจะเป็นไปตามนี้

1. เลือกแทงระหว่าง เสือ, มังกร หรือ เสมอ (แทงสวนระหว่าง เสือ และ มังกร)

2. ดีลเลอร์แจกไพ่ฝั่งละ 1 ใบ

3. เปิดไพ่ และวัดแต้มว่าฝั่งไหนได้แต้มมากกว่า ฝั่งนั้นชนะเดิมพันทันที

วิธีการเล่นสามารถเลือกเล่นได้ผ่านเว็บ  Ufazeed สมัครใช้งาน

ขั้นตอนกาลงเดิมพัน

มังกร (Dragon)

การแทงฝั่งมังกร หรือ ฝั่งสีแดง คือการที่เราวางเดิมพันว่า แต้มของฝั่งมังกรจะมากกว่าแต้มของฝั่งเสือ ซึ่งผู้เล่นฝั่งมังกรจะได้รับไพ่ และมีโอกาสได้เปิดไพ่ก่อน ทำให้รู้คะแนนก่อนนั่นเอง โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1

เสือ (Tiger)

แทงฝั่งเสือ หรือ ฝั่งสีน้ำเงิน ก็คือการที่ทายว่าฝั่งเสือจะมีแต้มมากกว่าฝั่งมังกรนั่นเอง ซึ่งผู้เล่นฝั่งเสือจะได้รับไพ่ทีหลัง ซึ่งทำให้รู้คะแนนทีหลังฝั่งมังกร โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1 เช่นเดียวกัน

แทงเสมอ (Tie)

การแทงรูปแบบนี้ คือการที่เราเลือกเดิมพันว่า แต้มของทั้งสองฝั่งจะมีค่าเท่ากัน ซึ่งโอกาสที่ไพ่ทั้งสองฝั่งจะออกมาเสมอกันนั้นเป็นไปได้ง่ายกว่าเกมไพ่ชนิดอื่นๆ จึงทำให้อัตราจ่ายเงินเดิมพันสูงถึง 1:8 กันเลยทีเดียว

เลือกว่าจะลงเดิมพันที่ช่องไหน และจำนวนเงินเท่าไหร่ โดยกดเลือกชิปจำนวนที่ต้องการลงเดิมพัน เพื่อเลือกวางลงในช่อง เสือ มังกร เสมอ หรือ แบบอื่นๆ
ในแต่ละไม้จะมีเวลานับถอยหลังอยู่ที่ประมาณ 25-50 วินาที ก่อนที่จะเปิดไพ่ ดังนั้นดูเวลานับถอยหลังให้ดี ถ้ามีเวลาเหลือน้อยแล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ก็รอลงเดิมพันในรอบถัดไป เพราะเกมนี้ไม่ได้บังคับว่าต้องลงเดิมพันทุกรอบ
คนแจกไพ่จะทำการแจกไพ่ฝ่ายเสือ และฝ่ายมังกร ฝ่ายละ 1 ใบ เมื่อเวลานับถอยหลังสิ้น ไพ่จะถูกเปิดออก ซึ่งถ้าวางเดิมพันได้ถูกช่องก็จะได้อัตรารางวัลไปตามที่กำหนด แต่ถ้าทายผิดก็จะเสียชิปเดิมพัน

สำหรับการแทงเดิมพันไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วแต่ถ้าหน้าไพ่เปิดออกมาทั้งสองฝ่ายเกิดเสมอ เกมจะหักเงินเดิมพันของคุณแค่ครึ่งเดียว เช่น คุณเลือกวางเดิมพันฝ่ายมังกรที่ 1,000 บาท แต่หน้าไพ่เปิดมา เสมอ เกมก็จะหักเงินไป 500 บาท และคืนให้กับคุณ 500 บาท

เลือกเดิมพันช่องไหนมีโอกาสชนะสูงกว่ากัน ?
บาคาร่าเสือมังกรมีการคำนวณ RTP (Return to Player) หรือค่าสถิติการออกรางวัลว่าฝ่ายไหนมีโอกาสชนะมากกว่ากัน โดยแบ่งออกเป็น

ฝ่ายเสือ (Tiger) และ มังกร (Dragon) มี RTP อยู่ที่ 96.27%

เสมอกัน (Tie) มี RTP อยู่ที่ 82.17%

การเดิมพันอื่นๆ ได้แก่ คู่ คี่ ดำ แดง สูง ต่ำ มี RTP อยู่ที่ 92.31%

การชนะของการเดิมพันที่มังกร หรือเสือ มีโอกาสชนะรางวัลได้บ่อยที่สุด รองลงมาคู่เดิมพันรูปแบบต่างๆ และโอกาสการเสมอ

สูตรการเดิมพัน

สูตรคี่ ในช่วง 50 ไม้แรกถือเป็นโอกาสทองที่เราจะแทงคู่-คี่ได้ วิธีการใช้สูตรก็คือแทงคี่ใน 20 ไม้แรกเพื่อดูเค้าไพ่ แทงคู่ใน 20 ตาถัดไป แล้ว 10 ไม้สุดท้ายให้กลับมาแทงคี่ เท่ากับว่าเราแทงคี่ไปทั้งหมด 30 ครั้ง ที่ต้องทำเช่นนี้เนื่องจากมันมีโอกาสที่จะออกไพ่คี่มากกว่าหากใช้ไพ่ 5 สำรับในการเล่น

สูตรหางมังกร ให้ดูว่าฝั่งไหนชนะติดกันยาว ๆ ตั้งแต่ไม้ที่ 12-20 รอบ จากนั้นให้เราเดิมพันตามไปเลย โดยส่วนมากเค้าไพ่หางมังกรจะออกติดกันสูงสุดประมาณ 5-12 ไม้

สูตรปิงปอง หรืออีกชื่อก็คือแทงสลับฝั่ง เราจะดูเค้าไพ่ก่อนว่ามันสลับแพ้ชนะกันอยู่หรือไม่ หากสลับกันอยู่ก็ใช้วิธีแทงดักไว้เลย เช่น ออก เสือ, มังกร, เสือ รอบต่อไปเราแทง มังกร รอได้เลย

สูตรเดิมพันเจ้ามือ เนื่องจากทุกเกมพนันจะมีค่า House Edge ที่ช่วยให้ คาสิโนออนไลน์ ได้เปรียบเราอยู่ เราจึงใช้จุดนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับเราด้วยการแทงฝั่งเจ้ามือ แต่การจะใช้สูตรนี้ต้องดูด้วยว่าไพ่ออกฝั่งน้ำเงินหรือไหม

สูตรการทบเงินทุน สำหรับทุนน้อยหรืออยากเล่นนาน ๆ แนะนำว่าใช้สูตรนี้ โดยเราจะใช้วิธีวางเดิมพันแบบต่ำสุดเท่าที่จะต่ำได้ และเราจะทบเดิมพันในรอบต่อคือการนำกำไรมาทบเป็นทุนทบ จากนั้นก็กลับมาเริ่มต้นวางเดิมพันต่ำสุดใหม่ ยกตัวอย่างเช่น รอบแรกแทงไป 50 บาท ชนะ รอบสองแทง 100 บาท ชนะ รอบสามแทง 50 บาท เพราะสองรอบแรกเราได้กำไรมาแล้ว 150 รอบนี้เลยใช้ทุนเก่า แล้วถ้ารอบสองแพ้ให้กลับไปเดิมพันต่ำ จนกว่าจะชนะ วิธีนี้ให้เราชนะแค่ 2 ใน 5 ก็ยังไม่ขาดทุน

สูตรล็อคเป้า เป็นการวางแผนการเงินสำหรับการลงทุนของเราว่าวันนี้จะลงทุนกี่บาท จะเอากำไรกี่บาท จะเสียไม่เกินกี่บาท หากเป้าไหนถึงก่อนก็ให้เลิก วิธีการเล่นสามารถเลือกเล่นได้ผ่านเว็บ  Ufazeed สมัครใช้งาน

วิธีดูเค้าไพ่ 8 รูปแบบ ”

สำหรับวิธีการอ่าน เค้าไพ่บาคาร่า หรือการดูลายไพ่ ถือว่าเป็นแกนหลักสำคัญต่อการเล่นไพ่ชนิดนี้เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในเคล็ดลับวิชาบาคาร่าที่นักเล่นไพ่ต้องรู้ โดย เค้าไพ่ นั้น คือ สถิติในการออกไพ่ก่อนหน้า ซึ่งพอคนไทยนำมาเรียกก็ออกจะดูแปลกๆอยู่บ้าง ไม่เหมือนกับทางต่างประเทศซึ่งก็แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเรียกชื่อเค้าไพ่บาคาร่าแตกต่างกัน

โดยข้อดีของการแทงบาคาร่าผ่านเว็บ RealGame คือ ท่านจะดูสถิติของไพ่รอบก่อนๆอย่างละเอียด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเดิมพันในรอบต่อไป โดยฝั่งแบงค์เกอร์ ก็คือ B ส่วนฝั่งเพลย์เยอร์ นั้นคือ P บทความนี้จะมาสอนดูเค้าไพ่ ชื่อเรียกเค้าไพ่ 8 รูปแบบที่เรียกกัน

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่ปิงปอง

เค้าไพ่ปิงปอง ใช้เรียกเมื่อสถิติการออกไพ่สลับกันแพ้ชนะไปมาระหว่าง แบงค์เกอร์ กับ เพลย์เยอร์ เค้าไพ่ PBPB ลักษณะเหมือนกับการตีปิงปอง การเล่นโดยใช้สูตรนี้ให้แทงฝ่ายตรงข้าม เช่นถ้าสถิติออก P-B-P-B ตาต่อไปก็ต้องเลือกแทง P

สูตรแทง บาคาร่า ช่วยให้มีโอกาสให้เราทำกำไรได้อย่างมาก มากถึง 87.5% ของทั้งขอนไพ่ Baccarat ทั้งหมด ส่วนใหญ่สถิติจะออกสลับกันไปมาระหว่าง ฝั่งเพลย์เยอร์ กับ แบงค์เกอร์ ติดกันไม่เกิน 3 ครั้ง แต่การสลับผลชนะไปมานั้นอาจแตกเป็นรูปแบบเค้าไพ่ปิงปอง

สามารถสังเกตรูปแบบการออกของไพ่ได้จากเค้าไพ่หลักที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอ รูปแบบของเค้าไพ่จะมีลักษณะสลับกันไปมาเหมือนกับการ ตีปิงปอง นั่นเอง เค้าไพ่นี้จึงได้ถูกเรียกว่า เค้าไพ่ปิงปอง ซึ่งการสลับนั้นจะเริ่มจาก P ( Player ) ก่อนหรือ B ( Banker ) ก่อนก็ได้

ยกตัวอย่างเช่น

B, P, B, P หรือ P, B, P, B การสลับให้เกิด เค้าไพ่ปิงปอง หรือเค้าไพ่ PBPB อย่างน้อยต้องสลับกันให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 2 คู่ หรือมากกว่า 2 คู่ เป็นต้นไป และถ้าหากสลับเพียงคู่เดียวอย่างเช่น P, B หรือ B, P ไม้ต่อไปอาจจะออกเค้าไพ่ ปิงปอง

จุดสังเกตเค้าไพ่ปิงปอง : รูปแบบของการลงเดิมพัน สถิติของการออกเค้าไพ่ในลักษณะที่ออกซ้ำกันยาวๆ ที่ผลจะออกเป็นแบบเดิมในตาถัดไป ดังนั้นมีเปอร์เซ็นต์มากเลยทีเดียวที่ตาถัดไปผลจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่เสมอต่อ

เค้าไพ่บาคาร่าแบบเสมอต่อ คือ เค้าไพ่บาคาร่าที่มีการออกผล เสมอ (Tie) แล้วมีการออกผลของตัวนั้นๆต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 1 รอบแล้วค่อยเปลี่ยนผลออกเป็น ฝั่งตรงข้าม เช่น ไม้แรกและไม้ที่สองเค้าไพ่ออกผลเป็น ฝั่งเจ้ามือ (Banker) ตาที่สามออกผลเป็น เสมอ (Tie) หลังจากผลที่ออกเสมอรอบถัดไปจะออกเป็น เสมอ (Tie) หรือ B ( Banker ) ต่อ

ยกตัวอย่างเช่น

B, T, B, T หรือ P, T, P, T การออกเสมอให้เกิด เค้าไพ่เสมอตัด หรือเค้าไพ่ PPTPPT อย่างน้อยต้องตัดกัน 1ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 2 ไม้ หรือมากกว่า 2 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่เสมอต่อ ：รูปแบบของการลงเดิมพันตัวที่ก่อนออกผลเสมอเป็นอะไรหลังจากรอบที่ออกผลเสมอจะเป็นการออกผลตัวนั้นต่อ โดยที่ยังไม่เปลี่ยนฝั่งเป็นฝั่งตรงข้าม หากเห็นเค้าหลักเค้าไพ่ออกผลแบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นการออกเค้าไพ่บาคาร่าแบบ เค้าไพ่เสมอต่อ

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่เสมอตัด

เค้าไพ่บาคาร่าแบบเสมอตัด คือ เค้าไพ่บาคาร่าที่มีการออกผล เสมอ (Tie) แล้วมีการออกผลไม้ต่อไปไม่เหมือนเดิม เค้าไพ่จะออกมาให้เห็นแล้วค่อยเปลี่ยนผลออกเป็น เสมอ (Tie) เช่น ไม้แรกและไม้ที่สองเค้าไพ่ออกผลเป็น B ( Banker ) ตาที่สามออกผลเป็น เสมอ (Tie) หลังจากผลที่ออกเสมอแล้วไม้ต่อไปจะออกเป็น เสมอ (Tie) หรือ P ( Player ) ตัด

ยกตัวอย่างเช่น

B, B, T, P,P, T, B,B การออกเสมอให้เกิด เค้าไพ่เสมอตัด หรือเค้าไพ่ PPTBBT อย่างน้อยต้องตัดกัน 1ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 2 ไม้ หรือมากกว่า 2 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่เสมอตัด ：รูปแบบของการลงเดิมพันตัวที่ก่อนออกผลเสมอเป็นอะไรหลังจากรอบที่ออกผลเสมอจะเปลี่ยนเป็นการออกผลตัวฝั่งตรงข้ามต่อ หากเห็นเค้าหลักเค้าไพ่ออกผลแบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นการออกเค้าไพ่บาคาร่าแบบ เค้าไพ่เสมอตัด

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่สามตัวตัด
ไพ่สามตัวตัด จะเป็นการออกผลไพ่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาชนะได้ 3 ครั้งติดกัน และเปลี่ยนผลไพ่ในไม้ที่ 4 การรอจังหวะแทง ใหัรอให้ครบ 3 ไม้ แล้วเปลี่ยนเป็นแทงฝ่ายตรงข้าม เช่น B-P-P-P ไม้ต่อไป ก็ให้เลือกเดิมพัน B

ยกตัวอย่างเช่น

B, B,B, P,P,P, B,B,B การออก เค้าไพ่ 3 ตัวตัด อย่างน้อยต้องตัดกัน 3 ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 3 ไม้ หรือมากกว่า 3 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่สามตัวตัด ：รูปแบบของการลงเดิมพันตัวที่ก่อนออกผลเป็นอะไรหลังจากรอบที่ออกผลจะเป็นเป็นฝั่งตรงข้ามต่อ ให้ดูเค้าหลักหากเค้าไพ่ออกผลแบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นการออกเค้าไพ่บาคาร่าแบบ เค้าไพ่สามตัวตัด

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่สองตัวตัด

ไพ่สองตัวตัด จะเป็นการออกผลไพ่ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาชนะได้ 2 ครั้งติดกัน และเปลี่ยนผลไพ่ในไม้ที่ 3 การรอจังหวะแทง ใหัรอให้ครบ 2 ไม้ แล้วเปลี่ยนเป็นแทงฝ่ายตรงข้าม เช่น B-B-P-P- ไม้ต่อไป ก็ให้เลือกเดิมพัน B

ยกตัวอย่างเช่น

B, B, P, P, B, B การออก เค้าไพ่ 2 ตัวตัด อย่างน้อยต้องตัดกัน 2 ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 2 ไม้ หรือมากกว่า 2 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่สองตัวตัด ： รูปแบบของการลงเดิมพันตัวที่ก่อนออกผลเป็นอะไร 2 ไม้ หลังจากรอบต่อไปที่ออกผลจะเป็นเป็นฝั่งตรงข้ามต่อ ให้ดูเค้าหลักหากเค้าไพ่ออกผลแบบนี้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นการออกเค้าไพ่บาคาร่าแบบ เค้าไพ่สองตัวตัด

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่มังกร

เค้าไพ่มังกร คือ เค้าไพ่หลักจะออกผลเป็นสีเดียวกันออกติดกันติดซ้ำๆยาวไล่ลงมา ที่แสดงบนเค้าไพ่หลัก เป็นเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามังกร ก็คือการออกไพ่ในลักษณะที่ B ( Banker ) หรือP ( Player ) ชนะติดต่อกัน อย่างน้อย 4-5 ครั้ง การใช้สูตรนี้ก็คือแทงตามไปเรื่อยๆไปจนกว่าหน้าไพ่จะเปลี่ยน เช่น B-B-B-B ไม้ถัดไปให้เลือก B

ยกตัวอย่างเช่น

B, B, B, B, B, B, B, B หรือ P, P, P, P, P, P, P, P, การออก เค้าไพ่กร อย่างน้อยต้องตัดกัน 5 ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 5 ไม้ หรือมากกว่า 5 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่มังกร : รูปแบบของการลงเดิมพัน เค้าไพ่มังกร คือรอให้สถิติบาคาร่าออกมาที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เป็นหางมังกรยาวลงมา ก็ให้แทงเดิมพันไปที่ฝั่งเดียวกันนั้นไปกับหางมังกรได้เลย ตัวอย่างเช่น BBBBBB = ให้ลงเดิมพัน B หรือ PPPPPP = ให้ลงเดิมพัน P เป็นต้น

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่มังกรแดง

เค้าไพ่มังกร คือ เค้าไพ่หลักจะออกผลเป็นสีเดียวกันออกติดกันติดซ้ำๆยาวไล่ลงมา ที่แสดงบนเค้าไพ่หลัก เป็นเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามังกร ก็คือการออกไพ่ในลักษณะที่ B ( Banker ) ชนะติดต่อกัน อย่างน้อย 4-5 ครั้ง การใช้สูตรนี้ก็คือแทงตามไปเรื่อยๆไปจนกว่าหน้าไพ่จะเปลี่ยน เช่น B-B-B-B ไม้ถัดไปให้เลือก B

ยกตัวอย่างเช่น

B, B, B, B, B, B, B, B การออก เค้าไพ่กร อย่างน้อยต้องตัดกัน 5 ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 5 ไม้ หรือมากกว่า 5 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่มังกรแดง : รูปแบบของการลงเดิมพัน เค้าไพ่มังกร คือรอให้สถิติบาคาร่าออกมาที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เป็นหางมังกรยาวลงมา ก็ให้แทงเดิมพันไปที่ฝั่งเดียวกันนั้นไปกับหางมังกรได้เลย ตัวอย่างเช่น BBBBBB = ให้ลงเดิมพัน B

วิธีดูเค้าไพ่ เค้าไพ่มังกรเงิน

เค้าไพ่มังกร คือ เค้าไพ่หลักจะออกผลเป็นสีเดียวกันออกติดกันติดซ้ำๆยาวไล่ลงมา ที่แสดงบนเค้าไพ่หลัก เป็นเค้าไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามังกร ก็คือการออกไพ่ในลักษณะที่ P ( Player ) ชนะติดต่อกัน อย่างน้อย 4-5 ครั้ง การใช้สูตรนี้ก็คือแทงตามไปเรื่อยๆไปจนกว่าหน้าไพ่จะเปลี่ยน เช่น P-P-P-P ไม้ถัดไปให้เลือก P

ยกตัวอย่างเช่น

P, P, P, P, P, P, P, P, การออก เค้าไพ่กร อย่างน้อยต้องตัดกัน 5 ไม้ ให้ดูที่ในเค้าหลักก่อน 5 ไม้ หรือมากกว่า 5 ไม้ เป็นต้นไป

จุดสังเกตเค้าไพ่มังกร: รูปแบบของการลงเดิมพัน เค้าไพ่มังกร คือรอให้สถิติบาคาร่าออกมาที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เป็นหางมังกรยาวลงมา ก็ให้แทงเดิมพันไปที่ฝั่งเดียวกันนั้นไปกับหางมังกรได้เลย ตัวอย่างเช่น PPPPPP = ให้ลงเดิมพัน P เป็นต้น